วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2555

แหล่งการเรียนรู้ทางชีววิทยา ปากคลองตลาด

ข้อมูลทั่วไป

   ปากคลองตลาด (อังกฤษPak Khlong Talat) เป็นตลาดสดขนาดใหญ่ บริเวณถนนจักรเพชร ยาวจนไปถึงถนนมหาราช ตั้งโอบล้อมวัดราชบูรณะโรงเรียนราชินีและโรงเรียนสวนกุหลาบ ประกอบไปด้วยตลาดใหญ่ถึง 5 แห่งตั้งติด ๆ กัน ปัจจุบันเน้นขายสินค้าเกษตรกรรมที่เน้นการค้าส่งผัก ผลไม้และดอกไม้สด ปากคลองตลาดติดอันดับที่ 4 (จากการจัดอันดับ 1 ใน10 ของตลาดดอกไม้ทั่วโลก) ยังเป็นตลาดกล้วยไม้ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกอีกด้วย
   ในสมัยอยุธยาเป็นย่านชุมชน พบหลักฐานเป็นสิ่งปลูกสร้างทั้งวัดและป้อมปราการต่างๆ ที่ก่อสร้างขึ้นมาหลายแห่ง รอบๆ ชุมชนมีคูคลองและแม่น้ำหลายสายเข้ามาบรรจบกันจนมีลักษณะเป็นปากคลอง ต่อมาในสมัยธนบุรี เป็นจุดนัดพบของผู้คนที่สัญจรทางน้ำ มีการค้าขาย แลกเปลี่ยนสิ่งของ
   ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์เป็นตลาดค้าปลาขนาดใหญ่ที่ส่งตรง มาจากแม่น้ำท่าจีน (สมุทรสาคร) แล้วของที่ส่งผ่านมาทางแม่น้ำเจ้าพระยา มีบันทึกว่าในในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงโปรดฯ ให้ขุดคลองหลายสายมาตั้งแต่เริ่มสถาปนากรุงเทพ รวมถึง "คลองตลาด" คลองเล็กข้างวัดบูรณศิริอมาตยาราม อีกทั้งในย่านไม่ไกลกันนี้ มีคลองที่ขุดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2315 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสิน เรียกว่า "คลองใน" ซึ่งทั้ง 2 แห่งนี้เป็นตลาดสดเน้นการค้าปลาเป็นหลักมาจน จนในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่โปรดฯ จะเรียกตลาดนี้ว่า "ตะพานปลา" ในระยะหนึ่ง ก็เปลี่ยนจากตลาดค้าปลาไปยังตำบลวัวลำพอง หัวลำโพง แทน ตลาดปลานี้จึงแปรสภาพเป็นตลาดสด ค้าสินค้าเกษตร อย่างผัก ผลไม้และดอกไม้สด มาจนถึงทุกวันนี้
   ปัจจุบัน ปากคลองตลาดประกอบด้วยตลาดหลัก 3 แห่งได้แก่ ตลาดองค์การตลาด ตลาดยอดพิมาน และตลาดส่งเสริมเกษตรไทย มีลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์เป็นส่วนใหญ่ สูง 2-4 ชั้น มีการวางสินค้าต่าง ๆ และแผงลอย กันสาด กันอย่างหนาแน่น

การเดินทาง

   ถ้าหากต้องการเดินทางจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก็สามารถนั่งรถสาย 8 ทางฝั่งหน้าโรงพยาบาลราชวิถี โดยนั่งมาจนสุดสายก็จะถึงปากคลองตลาดพอดี

ลักษณะของการนำเสนอเนื้อหา

   การนำเสนอเนื้อหาสำหรับแหล่งการเรียนรู้ประเภทนี้ จะเป็นการนำเสนอของจริง ซึ่งผู้ที่ต้องการเรียนรู้จะสามารถใช้ประสาทสัมผัสในการรับรู้และเรียนรู้ได้ ไม่ว่าจะเป็น การสัมผัส(อย่างมีขอบเขต) การมองเห็น และการดมกลิ่น การเรียนรู้นั้นขึ้นอยู่กับผู้เรียนเป็นสำคัญว่ามีความต้องการที่จะเรียนรู้อะไรจากสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า อย่างเช่น อยากเรียนรู้เกี่ยวกับเม็ดสีที่พบในดอกไม้ ซึ่งสังเกตได้จากสีของดอกไม้ อยากเรียนรู้กลิ่นดอกไม้ว่ามีกลิ่นแบบใดบ้าง และมาจากส่วนใดของดอก อยากเรียนรู้รูปแบบลักษณะของใบไม้ ว่ามีรูปร่างแบบใดบ้าง นอกจากนี้ก็ยังสามารถเรียนรู้ได้อีกหลายอย่างจากสิ่งที่เห็น
   สำหรับปากคลองตลาดแล้ว ผู้คนทั่วไป อาจจะคิดว่า เป็นแค่แหล่งการค้าแห่งหนึ่ง เป็นเพียงศูนย์รวมดอกไม้ ผลไม้ และผัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นแหล่งการเรียนรู้ชั้นดีเลยทีเดียว เพราะว่าแหล่งการเรียนรู้นั้น ไม่จำเป็นจะต้องอยู่ในพิพิธภัณฑ์ แต่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ที่เป็นแหล่งรวมสิ่งใดสิ่งหนึ่งไว้อย่างหลากหลาย หรือตัวบุคคลที่มีความรู้อยู่มากมาย
   ดังนั้น การเรียนรู้ จะเกิดขึ้นได้มากหรือน้อย จึงขึ้นอยู่กับผู้เรียนเป็นสำคัญ หากผู้เรียนไม่ได้มีความชอบส่วนตัว หรือผู้สอนมิได้กระตุ้นผู้เรียนให้เกิดความอยากรู้ การเรียนรู้ก็ไม่เกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นน้อย
แต่ถ้าเมื่อใดที่ผู้เรียนมีความชอบในสิ่งที่เห็น หรือผู้สอนได้กระตุ้นให้เกิดแรงจูงใจ เมื่อนั้น ผู้เรียนจะเกิดการหยั่งเห็นจากสิ่งที่อยู่รอบตัว และเกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง


   บรรยากาศโดยรวมของปากคลองตลาด

 รูปแสดงพันธุ์ต่างๆของดอกไม้ ซึ่งพบได้ในร้านดอกไม้บางร้านเท่านั้น
รูปแบบของใบไม้ที่มีความหลากหลาย
พันธุ์กล้วยไม้ที่พบหาได้ยาก และมีราคาแพง

ดอกไม้หลายชนิด ที่ไม่สามารถปลูกได้ในประเทศไทย

ดอกไม้ที่ออกเพียงปีละหนึ่งครั้ง เช่น ดอกกระเจียว


และไม้เมืองหนาวอีกหลายชนิด ที่ไม่สามารถเพาะปลูกได้ในภาคกลาง

การนำแหล่งการเรียนรู้ไปใช้ในการเรียนการสอน

   สามารถนำตัวอย่างของดอกไม้ ผัก และผลไม้ ไปใช้เป็นตัวอย่างในการปฏิบัติการเกี่ยวกับพืชได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ สัณฐานวิทยาของพืช กายวิภาคของพืช มิญชวิทยาของพืช และอื่นๆอีกมากมาย ดังนั้น แหล่งการเรียนรู้แห่งนี้ สามารถนำไปใช้ในการเรียนการสอนได้ทุกระดับที่เรียนเกี่ยวกับพืช ไม่ว่าจะเป็นประถม มัธยม และระดับมหาวิทยาลัย

ข้อเสนอแนะ

   แหล่งการเรียนรู้นั้น สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ไม่ว่าเป็น คน สัตว์ สิ่งของ หรือจะเป็นสถานที่ก็ตาม การเรียนรู้นั้นจึงขึ้นอยู่กับผู้เรียน ว่าจะสามารถเรียนรู้อะไรได้จากสิ่งที่แวดล้อมตนเองอยู่ ตัวอย่างเช่น เรามองเห็นสุนัขตัวหนึ่งเดินมาเห่าเรา เราจะเรียนรู้อะไรได้จากสิ่งนี้ ถ้าหากเป็นบุคคลทั่วไป จะไม่สนใจ หรืออาจจะวิ่งหนี แต่ถ้าเป็นคนที่สามารถหยั่งเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น คนคนนั้น อาจจะตั้งคำถามว่า ทำไมสุนัขถึงเห่า หรืออาจจะเกิดการจินตนาการว่า หากเรานำสุขัขตัวนี้ไปผ่า เราจะเห็นอะไรบ้าง ดังนั้น แมวตัวหนึ่งที่เดินอยู่ข้างถนน ต้นไม้ที่อยู่ในสวน นกที่บินอยู่บนท้องฟ้า เด็กเล็กๆ หรือแม้แต่ถังขยะ ต่างก็เป็นแหล่งการเรียนรู้ทั้งนั้น แต่อยู่ที่ว่า ผู้ที่มองเห็นมัน จะสามารถเรียนรู้ได้อย่างสร้างสรรค์หรือเกิดการหยั่งเห็นจากสิ่งแวดล้อมได้หรือเปล่า