วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2555

แหล่งการเรียนรู้ทางชีววิทยา ปากคลองตลาด

ข้อมูลทั่วไป

   ปากคลองตลาด (อังกฤษPak Khlong Talat) เป็นตลาดสดขนาดใหญ่ บริเวณถนนจักรเพชร ยาวจนไปถึงถนนมหาราช ตั้งโอบล้อมวัดราชบูรณะโรงเรียนราชินีและโรงเรียนสวนกุหลาบ ประกอบไปด้วยตลาดใหญ่ถึง 5 แห่งตั้งติด ๆ กัน ปัจจุบันเน้นขายสินค้าเกษตรกรรมที่เน้นการค้าส่งผัก ผลไม้และดอกไม้สด ปากคลองตลาดติดอันดับที่ 4 (จากการจัดอันดับ 1 ใน10 ของตลาดดอกไม้ทั่วโลก) ยังเป็นตลาดกล้วยไม้ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกอีกด้วย
   ในสมัยอยุธยาเป็นย่านชุมชน พบหลักฐานเป็นสิ่งปลูกสร้างทั้งวัดและป้อมปราการต่างๆ ที่ก่อสร้างขึ้นมาหลายแห่ง รอบๆ ชุมชนมีคูคลองและแม่น้ำหลายสายเข้ามาบรรจบกันจนมีลักษณะเป็นปากคลอง ต่อมาในสมัยธนบุรี เป็นจุดนัดพบของผู้คนที่สัญจรทางน้ำ มีการค้าขาย แลกเปลี่ยนสิ่งของ
   ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์เป็นตลาดค้าปลาขนาดใหญ่ที่ส่งตรง มาจากแม่น้ำท่าจีน (สมุทรสาคร) แล้วของที่ส่งผ่านมาทางแม่น้ำเจ้าพระยา มีบันทึกว่าในในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงโปรดฯ ให้ขุดคลองหลายสายมาตั้งแต่เริ่มสถาปนากรุงเทพ รวมถึง "คลองตลาด" คลองเล็กข้างวัดบูรณศิริอมาตยาราม อีกทั้งในย่านไม่ไกลกันนี้ มีคลองที่ขุดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2315 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสิน เรียกว่า "คลองใน" ซึ่งทั้ง 2 แห่งนี้เป็นตลาดสดเน้นการค้าปลาเป็นหลักมาจน จนในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่โปรดฯ จะเรียกตลาดนี้ว่า "ตะพานปลา" ในระยะหนึ่ง ก็เปลี่ยนจากตลาดค้าปลาไปยังตำบลวัวลำพอง หัวลำโพง แทน ตลาดปลานี้จึงแปรสภาพเป็นตลาดสด ค้าสินค้าเกษตร อย่างผัก ผลไม้และดอกไม้สด มาจนถึงทุกวันนี้
   ปัจจุบัน ปากคลองตลาดประกอบด้วยตลาดหลัก 3 แห่งได้แก่ ตลาดองค์การตลาด ตลาดยอดพิมาน และตลาดส่งเสริมเกษตรไทย มีลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์เป็นส่วนใหญ่ สูง 2-4 ชั้น มีการวางสินค้าต่าง ๆ และแผงลอย กันสาด กันอย่างหนาแน่น

การเดินทาง

   ถ้าหากต้องการเดินทางจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก็สามารถนั่งรถสาย 8 ทางฝั่งหน้าโรงพยาบาลราชวิถี โดยนั่งมาจนสุดสายก็จะถึงปากคลองตลาดพอดี

ลักษณะของการนำเสนอเนื้อหา

   การนำเสนอเนื้อหาสำหรับแหล่งการเรียนรู้ประเภทนี้ จะเป็นการนำเสนอของจริง ซึ่งผู้ที่ต้องการเรียนรู้จะสามารถใช้ประสาทสัมผัสในการรับรู้และเรียนรู้ได้ ไม่ว่าจะเป็น การสัมผัส(อย่างมีขอบเขต) การมองเห็น และการดมกลิ่น การเรียนรู้นั้นขึ้นอยู่กับผู้เรียนเป็นสำคัญว่ามีความต้องการที่จะเรียนรู้อะไรจากสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า อย่างเช่น อยากเรียนรู้เกี่ยวกับเม็ดสีที่พบในดอกไม้ ซึ่งสังเกตได้จากสีของดอกไม้ อยากเรียนรู้กลิ่นดอกไม้ว่ามีกลิ่นแบบใดบ้าง และมาจากส่วนใดของดอก อยากเรียนรู้รูปแบบลักษณะของใบไม้ ว่ามีรูปร่างแบบใดบ้าง นอกจากนี้ก็ยังสามารถเรียนรู้ได้อีกหลายอย่างจากสิ่งที่เห็น
   สำหรับปากคลองตลาดแล้ว ผู้คนทั่วไป อาจจะคิดว่า เป็นแค่แหล่งการค้าแห่งหนึ่ง เป็นเพียงศูนย์รวมดอกไม้ ผลไม้ และผัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นแหล่งการเรียนรู้ชั้นดีเลยทีเดียว เพราะว่าแหล่งการเรียนรู้นั้น ไม่จำเป็นจะต้องอยู่ในพิพิธภัณฑ์ แต่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ที่เป็นแหล่งรวมสิ่งใดสิ่งหนึ่งไว้อย่างหลากหลาย หรือตัวบุคคลที่มีความรู้อยู่มากมาย
   ดังนั้น การเรียนรู้ จะเกิดขึ้นได้มากหรือน้อย จึงขึ้นอยู่กับผู้เรียนเป็นสำคัญ หากผู้เรียนไม่ได้มีความชอบส่วนตัว หรือผู้สอนมิได้กระตุ้นผู้เรียนให้เกิดความอยากรู้ การเรียนรู้ก็ไม่เกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นน้อย
แต่ถ้าเมื่อใดที่ผู้เรียนมีความชอบในสิ่งที่เห็น หรือผู้สอนได้กระตุ้นให้เกิดแรงจูงใจ เมื่อนั้น ผู้เรียนจะเกิดการหยั่งเห็นจากสิ่งที่อยู่รอบตัว และเกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง


   บรรยากาศโดยรวมของปากคลองตลาด

 รูปแสดงพันธุ์ต่างๆของดอกไม้ ซึ่งพบได้ในร้านดอกไม้บางร้านเท่านั้น
รูปแบบของใบไม้ที่มีความหลากหลาย
พันธุ์กล้วยไม้ที่พบหาได้ยาก และมีราคาแพง

ดอกไม้หลายชนิด ที่ไม่สามารถปลูกได้ในประเทศไทย

ดอกไม้ที่ออกเพียงปีละหนึ่งครั้ง เช่น ดอกกระเจียว


และไม้เมืองหนาวอีกหลายชนิด ที่ไม่สามารถเพาะปลูกได้ในภาคกลาง

การนำแหล่งการเรียนรู้ไปใช้ในการเรียนการสอน

   สามารถนำตัวอย่างของดอกไม้ ผัก และผลไม้ ไปใช้เป็นตัวอย่างในการปฏิบัติการเกี่ยวกับพืชได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ สัณฐานวิทยาของพืช กายวิภาคของพืช มิญชวิทยาของพืช และอื่นๆอีกมากมาย ดังนั้น แหล่งการเรียนรู้แห่งนี้ สามารถนำไปใช้ในการเรียนการสอนได้ทุกระดับที่เรียนเกี่ยวกับพืช ไม่ว่าจะเป็นประถม มัธยม และระดับมหาวิทยาลัย

ข้อเสนอแนะ

   แหล่งการเรียนรู้นั้น สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ไม่ว่าเป็น คน สัตว์ สิ่งของ หรือจะเป็นสถานที่ก็ตาม การเรียนรู้นั้นจึงขึ้นอยู่กับผู้เรียน ว่าจะสามารถเรียนรู้อะไรได้จากสิ่งที่แวดล้อมตนเองอยู่ ตัวอย่างเช่น เรามองเห็นสุนัขตัวหนึ่งเดินมาเห่าเรา เราจะเรียนรู้อะไรได้จากสิ่งนี้ ถ้าหากเป็นบุคคลทั่วไป จะไม่สนใจ หรืออาจจะวิ่งหนี แต่ถ้าเป็นคนที่สามารถหยั่งเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น คนคนนั้น อาจจะตั้งคำถามว่า ทำไมสุนัขถึงเห่า หรืออาจจะเกิดการจินตนาการว่า หากเรานำสุขัขตัวนี้ไปผ่า เราจะเห็นอะไรบ้าง ดังนั้น แมวตัวหนึ่งที่เดินอยู่ข้างถนน ต้นไม้ที่อยู่ในสวน นกที่บินอยู่บนท้องฟ้า เด็กเล็กๆ หรือแม้แต่ถังขยะ ต่างก็เป็นแหล่งการเรียนรู้ทั้งนั้น แต่อยู่ที่ว่า ผู้ที่มองเห็นมัน จะสามารถเรียนรู้ได้อย่างสร้างสรรค์หรือเกิดการหยั่งเห็นจากสิ่งแวดล้อมได้หรือเปล่า



วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555

การสังเกตการสอน วิชาชีววิทยา โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว ในพระบรมราชูปถัมภ์ วันที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๕

ข้อมูลของโรงเรียน

   โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว เป็นโรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์ สังกัดส่วนกลาง กรมสามัญศึกษา ตั้งอยู่ที่ ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โดยนายสุขุม และนางจันทร์ฟอง ถิระวัฒน์ได้น้อมเกล้าฯ ถวายที่ดิน จำนวน 30 ไร่ เพื่อก่อสร้างโรงเรียนนี้แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระองค์โปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่กระทรวงศึกษาธิการให้จัดตั้งเป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาสายสามัญ ได้ดำเนินการก่อสร้างอาคาร โรงเรียนด้วยเงิน งบประมาณปี 2513 และได้รับพระราชทานนามโรงเรียนว่า "โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว" ("ราชวินิต " หมายความว่า " สถานที่ สั่งสอนอบรมกุลบุตรกุลธิดาให้เป็นคนดีโดยพระราชา") โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว เป็นโรงเรียนสหศึกษา เปิดสอนครั้งแรกเมื่อ ปีการศึกษา 2515 มีนักเรียน 347 คน ปัจจุบัน โรงเรียนมีเนื้อที่เพิ่มขึ้นอีก ประมาณ 42 ไร่ 2 งาน 30 ตารางวา

ตราสัญลักษณ์โรงเรียน

รูปอักษรย่อ ร.ว.บ.ประดิษฐ์สีแสด ภายใต้พระมหาพิชัยมงกฎสีทอง

สีประจำโรงเรียน

สีแสด-ดำ
สีแสด คือความเจริญรุ่งเรืองแห่งปัญญา
สีดำ คือสีความแข็งแกร่งอดทน

ปรัชญาของโรงเรียน

ศึกษาดี มีวินัย ใฝ่กีฬา รักษาคุณธรรม

คติพจน์

สติมโต สทา ภทฺทํ ผู้มีสติย่อมมีความเจริญทุกเมื่อ

ต้นไม้ประจำโรงเรียน

ต้นประดู่แดง

คำขวัญ

ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ สะอาด มารยาทดี สามัคคี มีวินัย ใฝ่ความรู้ กตัญญู เสียสละ


การสังเกตการสอน

สื่อที่ใช้ในการสอน

1 โปรแกรม Microsoft PowerPoint ซึ่งมีภาพเคลื่อนไหวที่ช่วยประกอบการอธิบาย
2  คอมพิวเตอร์ 1ชุด
3 โต๊ะวางคอมพิเตอร์และเอกสารที่ใช้ในการสอน
4 ไมโครโฟนพร้อมเครื่องขยายเสียงขนาดเล็ก
5 โทรทัศน์
6 สื่อการเรียนรู้วิชาชีววิทยาที่ป็นผลงานของนักเีรียน
7 ที่ด้านหลังห้องมีตู้เก็บอุปกรณ์ที่ใช้ในการทดลอง

ประโยชน์ของสื่อที่ใช้ในการสอน

   ประหยัดในเรื่องของเวลา และ เป็นสื่อที่ทำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน เนื่องจาก เป็นสื่อกลางของหมวดวิทยาศาสตร์ที่คุณครูใช้สอนร่วมกัน และสื่อนี้จะช่วยให้นักเรียนเกิดความเข้าใจในบทเรียนมากขึ้น เนื่องจากมีการเรียบเรียงเนื้อหาอย่างเป็นระบบระเบียบ และมีรูปภาพประกอบที่มีสีสันสดใส ซึ่งสี ก็จะช่วยในเรื่องของความจำและความเข้าใจ เพราะสีที่แตกต่าง ก็จะช่วยแยกแยะเนื้อหาที่แตกต่างกันด้วย

ปัญหาที่พบหรืออุปสรรคในการสอน

  สำหรับการสอนในช่วงเช้า จะไม่ค่อยเกิดปัญหาสักเท่าไหร่ แต่สำหรับภาคบ่าย มักจะเกิดปัญหา เนื่องจาก เป็นช่วงที่อยู่หลังจากการพักกลางวัน หลังจากการรับประทานอาหารกลางวัน ทำให้ผู้เรียนรู้สึกง่วงนอน และไม่มีความพร้อมที่จะเรียนรู้ในช่วงบ่าย และอีกปัญหาที่พบ คืก ครูผู้สอน ไม่สามารถควบคุมนักเรียนใด้ ทำให้นักเรียนไม่มีสาธิในขณะเรียน และเกิดการก่อกวนการเรียนการสอน ทำให้การเรียนการสอนเกิดความวุ่นวายขึ้นมา และสร้างบรรยากาศที่ไม่เอื้อต่อการเรียนรู้ีของนักเรียน

ข้อเสนอแนะ

   สำหรับวิชาชีววิทยา เป็นวิชาที่หนักในเรื่องของเนื้อหาซึ่งจะต้องใช้ความจำเป็นหลัก และต้องใช้ความเข้าใจตามมา ดังนั้น ครูชีววิทยา จะลำบากกว่าครูวิชาอื่นเรื่องของการสอนวิชาที่มีเนื้อหาี่กว้างขวาง ซึ่งวิธีการหนึ่งที่จะช่วยในการแก้ปัญหานี้ คือ ครูจะต้องมีการสรุปเนื้อหาอย่างรวบรัดหรือสอนเฉพาะหลักให้พอเข้าใจ และอาจมีเนื้อหาในส่วนที่ขยายความที่ต้องให้นักเรียนไปค้นคว้าด้วยตนเอง หรือ ครูอาจมอบเอกสารให้ไปอ่านเพิ่มเติมจากที่สอน และนอกจากนี้ ในการสอนหากสอนรวดเดียวจนจบคาบ ก็เป็นที่แน่นอนว่า นักเรียนคงจะสติหลุดจากการเรียนการสอนแน่ ดังนั้น วิธีการแก้ปัญหาคือ ครูจะต้องหาเรื่องมาเล่าให้นักเรียนเกิดความผ่อนคลาย อาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้น หรือเรื่องที่สอดคล้องกับเนื้อหาที่เรียนก็ได้ เพื่อเป็นการคั่นเวลา และทำให้นักเรียนเกิดความผ่อนคลาย และพร้อมที่จะเรียนรู้ในเวลาต่อมา หรือมีอีกวิธีหนึ่ง คือ ให้นักเรียนยั่งสมาธิก่อนการเรียนการสอนสัก 5 นาที เพื่อที่จะเป็นการเรียกสมาธิของนักเรียน และนักเรียนก็จะสามารถเรียนรู้ได้เต็มที่

บรรยากาศการสังเกตการสอน ณ โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว

การเดินทางจากมหาวิทยาลัย โดยรถประจำทางสาย 38 ไปถึงหน้าปากซอย
และต่อด้วยรถแทกซี่เข้าสู่โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว
บรรยากาศของโรงเรียน มีความสวยงามและมีความเป็นธรรมชาติ
ส่งผลให้ผู้เรียนมีอารมณ์ และสุขภาพจิตที่ดี
บรรยากาศภายในห้องเรียนมีลมพัดเข้าออกเย็นสบาย มีสื่อการเรียนรู้มากมาย
ซึ่งเอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน

วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555


นวัตกรรมการเรียนการสอน



       คงจะมีหลายครั้งที่เราถามตัวเองว่า ทำไมต้องเรียนคณิตศาสตร์มากมายอย่างนี้ ในเมื่อเครื่องคิดเลขก็มี คอมพิวเตอร์ก็พัฒนาไปมาก หรือบางเรื่องของคณิตศาสตร์ที่ลงลึกมากๆ ก็ไม่เห็นจำเป็นต่อชีวิตประจำวันของเรา

          แต่หากได้พูดคุยกับ “ปรีชากร ภาชนะ” คุณครูแห่งโรงเรียนบ้านแท่นวิทยา จ.ชัยภูมิ เราอาจจะได้พบว่า คณิตศาสตร์เกี่ยวข้องกับชีวิตเรา จนบางครั้ง เราคาดไม่ถึง และมีวิธีการเรียนรู้คณิตศาสตร์แบบใหม่ ที่ไม่ได้ยากอย่างที่ผ่านมา

          คุณครูปรีชากรเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับทุนจากโครงการนวัตกรรมสร้างสรรค์การเรียนรู้ โดยสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพเยาวชน (สสค.) จากทั้งสิ้น 207 โครงการ ให้จัดทำโครงการ “ระเบิดชั้นเรียน : คณิตศาสตร์ไม่ยากอย่างที่คิดด้วยวิธีการเรื่องราวและแผนภาพ” (Amazing Teaching : Mathematics make it easy by SDM approach) ซึ่งใช้ “ศิลปะ” เข้ามาสร้างความเข้าใจ “คณิตศาสตร์”
          วิธีการเรื่องราวและแผนภาพ หรือ SDM – Story and Diagram Method เป็นวิธีการใหม่ ซึ่งมาจากการวิจัยของ “ปสาสน์ กงตาล” ผู้ช่วยศาสตราจารย์คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยใช้เรื่องราวและแผนภาพเป็นสื่อการสอน มีปรัชญาของการสอนคือ เมื่อสนทนาเรื่องเดียวกันก็จะเกิดการคิดเพิ่มและขยายออกไป เนื่องจากนักเรียนแต่ละคนมีประสบการณ์และภูมิหลัง รวมถึงความสนใจและความถนัดที่แตกต่างกัน
          “การสอนแบบเดิม ผมรู้สึกอึดอัด เหมือนผมพูดอยู่คนเดียว ซึ่งไม่ใช่บรรยากาศของการเรียนรู้ ผลการประเมินที่ออกมาก็ไม่น่าพอใจ เพราะวิธีการเดิมไม่เหมาะกับปัจจุบัน ผมจึงต้องหาทางออก” ครูปรีชากรเล่าย้อนก่อนจะค้นหาวิธีการใหม่มาสอนคณิตศาสตร์
          “ได้มาใช้วิธีการเรื่องราวและแผนภาพ ซึ่งเป็นเครื่องมือสอนคณิตศาสตร์ให้เป็นคณิตศาสตร์ที่เด็กจะได้เห็นเรื่องราว โดยครูเป็นคนเริ่มเล่าเรื่องราว ที่มีปัญหาคณิตศาสตร์แฝงอยู่ พร้อมกับรูปภาพประกอบ โดยเรื่องราวอาจจะเป็นนิทาน เหตุการณ์ที่ทันสมัย เน้นความแปลกใหม่ สดใส หรือสวยงาม เพื่อเป็นขั้นเพื่อนำเข้าสู่บทเรียน เพื่อให้นักเรียนรับรู้ไปได้พร้อมๆกัน เพื่อให้ผู้เรียนได้คิดเอง แก้ปัญหาเอง หลอกล่อให้เด็กเข้าสู่คณิตศาสตร์โดยไม่รู้ตัว ให้เด็กได้คิดกันเป็นกลุ่ม”
          “แล้วให้เด็กสร้างสรรค์เองโดยนำสถานการณ์ของเรื่องราวมาผ่านมุมมองของนักเรียนเองหรือโดยการเพิ่มเติมเสริมแต่งเรื่องราวให้มีสีมากขึ้นโดยการวาดรูปและระบายสีประกอบหรือการเล่าเรื่องใหม่เอง ซึ่งอาจเป็นการดัดแปลงจากเรื่องอื่น หรือสร้างขึ้นมาเองทั้งหมดตามความสนใจ”
          เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง ก็ย่อมเป็นธรรมดา ที่หลายคนอาจจะไม่คุ้น วิธีการสอนของครูปรีชากรก็เช่นกัน เขาบอกว่า “แรกๆเด็กต่อต้าน เพราะไม่เคยเจอมาก่อน แต่หลังจากใช้ไปพอสมควร เด็กรู้สึกว่า ได้คิดเอง ทำเอง และได้หาข้อสรุปเอง จึงเกิดความความมั่นใจที่จะนำเสนอผลงาน ทำให้เด็กๆได้ระเบิด ได้ระบายออกมา”
          “เด็กชอบไม่เหมือนกัน พื้นฐานก็ต่างกัน เด็กบางคนก็วาดเป็นภาพการ์ตูน บางคนก็วาดสิ่งที่เขาสนใจ มีเด็กผู้ชายอยู่คน เป็นเด็กหลังห้อง เขาเอาเรื่องแฟนเขามาเขียนเป็นเรื่องคณิตศาสตร์ ทำแบบง่ายๆ ทำให้เห็นว่า คณิตศาสตร์เชื่อมโยงกับวิถีชีวิต เชื่อมโยงกับโลก กับความเป็นจริง”
          “ก่อนหน้านี้ เด็กบางคน เขารู้สึกว่า คณิตศาสตร์ เรียนไปทำไม ทำไมต้องทำแบบฝึกหัด เรียนไปก็ไม่ได้ใช้อะไร เครื่องคิดเลขก็มี แต่วิธีการเรื่องราวและแผนภาพนี้ทำให้เด็กนักเรียนได้เห็นว่า นี่ไง ! คณิตศาสตร์กับตัวเขา ที่จริงอยู่ในเรื่องเดียวกันนั่นเอง แล้วก็ทำให้ผลประเมินดีขึ้นด้วย”
          กระทั่ง สสค.เปิดรับโครงการในโครงการนวัตกรรมสร้างสรรค์การเรียนรู้ เมื่อครูปรีชากรทราบเรื่อง เขาบอกถึงความรู้สึกตอนนั้นว่า “โป๊ะ ! เลยครับ สสค.จุดประกายผมขึ้นมาเลย เพราะจะมาช่วยให้เรื่องนี้ที่ผมทำอยู่ยั่งยืน ผมว่า มุมมองของผมกับ สสค.ตรงกันที่เราต้องการจะสร้างนวัตกรรมหรือวิธีการเรียนรู้ ซึ่งเรื่องนี้คือ การเรียนรู้คณิตศาสตร์ในมุมมองใหม่ บริบทใหม่ คือมีผู้เรียนเป็นที่ตั้ง”
          วิธีการเรื่องราวและแผนภาพนี้ นอกจากจะทำให้เด็กระเบิดตัวตน ระเบิดชั้นเรียนออกมาแล้ว ครูปรีชากรยังบอกว่า ทำให้เขาได้เรียนรู้คณิตศาสตร์ไปกับเด็กๆ ซึ่งเป็นความสุขอย่างหนึ่งของคนเป็นครูเช่นเขา
          “ความสุขของครูคือได้เรียนรู้ไปกับเด็กๆ เพราะเด็กจะมีวิธีคิดใหม่ๆออกมาเพิ่มเติม ครูก็มีความสุขไปกับเขาด้วย พวกเขาทำให้เรารู้สึกว่า เราตัวเล็กลง ส่วนเด็กๆนักเรียนตัวใหญ่ขึ้น” ครูปรีชากรบอกเล่าพร้อมรอยยิ้มอีกครั้ง
          โครงการนวัตกรรมสร้างสรรค์การเรียนรู้ โดย สสค.จะเปิดรับโครงการเพื่อมอบทุนอีก 20 โครงการ จากกลุ่มสำรอง ภายใต้งบประมาณไม่เกิน 4 ล้านบาท ซึ่งจะมีตัวแทนจากโรงเรียนทั้ง 20 แห่งทั่วประเทศมาร่วมแลกเปลี่ยนและลงนามข้อตกลง ในวันที่ 14-15 ตุลาคมนี้
          รวมจะมีโครงการที่ได้รับทุนจาก สสค.ในโครงการนวัตกรรมสร้างสรรค์การเรียนรู้ ทั้งสิ้น 227 โครงการจากทั่วประเทศ…
 

วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2555

จำคุกครึ่งปี! หนุ่มโพสภาพร่วมรักกับอดีตแฟนสาวว่อนเน็ต

ที่มาของข่าว:  ผู้จัดการออนไลน์,24 เมษายน 2555

สรุปข่าว  

 หนุ่มกรุงเก่าจอมแสบปล่อยรูปมีเพศสัมพันธ์กับอดีตแฟนสาวว่อนเน็ต รับสารภาพจาก 3 ปีเหลือติดคุกปีครึ่ง ปรับเกือบแสน ศาลระบุทำสังคมเสื่อมเสีย เพื่อไม่ให้ผู้อื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง โทษจำคุกจึงไม่รอการลงอาญา
วันที่24 เม.ย. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดี ที่อัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้องนายประเสริฐ เบญจวรเดชกุล อายุ 33 ปี ประกอบอาชีพส่วนตัว ชาว จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นจำเลยในความผิดฐานนำเข้า, เผยแพร่ ส่งต่อ ภาพอันมีลักษณะลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
โดยโจทก์ฟ้อง ระบุความผิดสรุปว่าเมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2554 เวลากลางคืน จำเลยนำภาพการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างจำเลย กับ น.ส.เอ (นามสมมติ) อดีตแฟนสาว ผู้เสียหาย มาลงเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต และเว็บไซต์ บางแพรก-ลีก ดอทคอม ที่จำเลยเป็นผู้ดูแลอยู่ ซึ่งทำให้อดีตแฟนสาวได้รับความเสียหาย นอกจากนี้จำเลยยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน โดยไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ด้วย ซึ่งเหตุเกิดที่ ต.บ้านแพรก อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา และที่อื่นๆ เกี่ยวพันกัน ทั้งนี้ ชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ แต่ให้การรับสารภาพชั้นศาล

การกระทำผิด

กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14(4), 27 เป็นความผิดหลายกรรม ฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ 3 กระทง จำคุกกระทงละ 1 ปี รวมจำคุก 3 ปี ฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานปรับ 50,000 บาท ปรับวันละ 300 บาท จำนวน 353 วัน รวมเป็นเงิน 105,900 บาท แต่ว่าจำเลยรับสารภาพลดโทษครึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน ปรับ 77,950 บาท

การป้องกันการกระทำผิด

การที่คู่รักนั้นมีเพศสัมพันธ์กันแล้วถ่ายเก็บไว้นั้น ไม่ใช่สิ่งผิด เพราะว่านั่นเป็นเรื่องส่วนตัว และนั่นอาจเป็นช่วงเวลาที่คู่รักได้มีความสุขร่วมกัน จึงได้เก็บความทรงจำดีๆนั้นเอาไว้ แต่ทว่า การนำสิ่งนั้นออกมาเผยแพร่ก็เป็นการแสดงว่า สิ่งที่คู่รักได้ทำร่วมกันนั้นไม่ใช่เรื่องส่วนตัวอีกต่อไปแล้ว ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผิด ดังนั้น หากว่าบุคคลจะกระทำการใดใดที่เกี่ยวข้องกับการเผยแพร่ข้อมูล ก็ต้องพิจารณาก่อนว่า สิ่งที่ได้เผยแพรไปนั้น จะเป็นประโยชน์ต่อสังคมหรือเปล่า หรือเป็นตัวอย่างที่ดีให้เด็กและเยาวชนที่มารับข้อมูลนั้นหรือไม่

วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2555

แนะนำตัวนางงามเข้ารอบ


อรุณสวัสดิ์ค่ะ ขอแนะนำตัวเจ้าของบล็อกนะคะ
    


     กราบสวัสดีแขกผู้มีเกียรติ 
ดิฉันชื่อ นาย สรายุทธ แก่นหอม หรือเรียกสั้นๆว่า น้องก๊องแก๊ง (เรียกยาวๆว่าน้องแก๊ง)
เกิดวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ปีพุทธศักราช ๒๕๓๕
ปัจจุบันอายุ ๒๐ ปีค่ะ
เป็นคนจังหวัดลพบุรี อำเภอบ้านหมี่(น้ำท่วม)
พอแปลงร่างแล้วจะเป็นแบบนี้ค่ะ


ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เอกชีววิทยา(กศ.บ.) คณะวิทยาศาสตร์
เกรดเฉลี่ยไม่ต้องพูดถึง
เวลาว่างชอบฟังเพลงค่ะ
นิสัย เป็นคนที่มีอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงง่าย เปลี่ยนไปตามสายลมและเสียงเพลง
งานอดิเรก จัดดอกไม้ค่ะ 
สถานะ โสดขั้นเทพ(โสดจนใยแมงมุมเกาะ)
ความใฝ่ฝัน... อยากเป็นช่างดอกไม้ เ็ป็นเจ้าของร้านดอกไม้ เป็นเจ้าของไร่(ไม้ตัดดอก ) 
อยู่อย่างเศรษฐกิจพอเพียง และอยากเป็นครูที่สร้างศิษย์ที่เป็นกำลังสำคัญของชาติค่ะ
   
   ติดต่อได้ที่
หรือเบอร์โทรศัพท์   083-5422242
   
   ความคาดหวังในรายวิชานี้
...คาดหวังว่าจะได้นำความรู้จากการทำสื่อการเรียนการสอนไปประยุกต์ใช้ และบูรณาการกับวิชาอื่นๆให้ได้สื่อที่มีคุณภาพและมีความสร้างสรรค์ ที่ช่วยสร้างบรรยากาศในการเรียนให้ดีขึ้น และเหมาะสมแก่การเรียนการสอนในแต่ละเนื้อหาวิชาการเรียนรู้ค่ะ
...ขอบคุณค่าาาาาา...